เป็นเรื่องราวซึ่งต้องบอกว่าไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นแม้กับตัวเองและก็คนอื่น เพราะสำหรับบางคนนั้นเขาต้องทนทำงานเก็บเงินกันมาทั้งชีวิต กว่าจะมีทุนสักก้อนหนึ่งที่จะเอามาใช้ว่าจ้างช่างผู้รับเหมาสร้างบ้านในฝันให้ ไม่ว่าจะอยู่เองหรือสร้างให้พ่อแม่ปู่ย่าตายาย แต่นั่นมันก็คือเงินก้อนสุดท้ายที่เขาเก็บเอาไว้จริงๆ หลายครั้งที่เคยแต่เห็นคนอื่นมารีวิวกัน ว่าถูกช่างทำอย่างนั้นบ้างทำอย่างนี้บ้าง แต่ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นมันจะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง
หญิงสาวท่านหนึ่งได้นำเอาเรื่องราวของตัวเธอเองมาโพสต์ให้สังคมออนไลน์ได้รับรู้กัน หลังจากที่เธอได้ว่าจ้างช่างผู้รับเหมาที่บอกตัวเองว่าเป็นบริษัทมาสร้างบ้านให้ มีการตกลงออกแบบทำสัญญากันอย่างดีว่าจะจ่ายเงินเป็นงวดงานไป ซึ่งก็ดูปกติและไม่ได้แตกต่างจากการว่าจ้างอื่นๆเลยแม้แต่น้อย โดยงบประมาณของการสร้างบ้านหลังนี้ถูกตั้งเอาไว้ที่ 1 ล้านบาท แต่ไม่คิดเลยว่าพอหลังจากที่มีการเบิกจ่ายเงินไปงวดแรกเท่านั้น ก็เกิดปัญหาขึ้นมาทันที
เพราะว่าสุดท้ายแล้วช่างผู้รับเหมาทีมงานนี้อยู่ๆก็เก็บข้าวเก็บของหนีหายออกไปจากพื้นที่ หลังจากที่เบิกงวดแรกไปแล้ว 300,000 แต่เข้ามาทำบ้านเอาไว้ได้เพียงแค่นี้ ทิ้งสภาพที่เหล็กเริ่มเป็นสนิมเอาไว้ให้เจ้าของบ้านได้เห็น และหลังจากการเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ก็พบว่ามีอยู่หลายจุดหลายแห่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งที่น่าตกใจอย่างมากก็คือการใช้ไม้เข้าแบบคานนั้นมันความบางมากจริงๆ ปริมาณของเหล็กเส้นก็มีอยู่น้อยนิด ไม่รู้ว่าจะแข็งแรงได้อย่างไร
เจ้าของโพสต์เล่าว่าตัวเธอเองพยายามที่จะทักท้วงอยู่หลายอย่างในการทำงานของช่าง แต่ช่างกลับหาว่าตัวเธอนั้นจู้จี้และไม่เข้าใจวิธีการทำงาน แล้ววันนึงอยู่ๆทีมงานช่างก็หนีหายไปหมด เธอบอกว่ารู้สึกเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่โดยกระทำ ตอนนี้ก็ได้แต่ติดต่อทนายความเพื่อที่จะเอาผิดกับทีมช่างนี้ให้ได้ ทำไม่เป็นทำไม่ได้มารับงานเพื่ออะไร เอาเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วหนีหายทิ้งเอาไว้แต่ความเสียใจให้กับคนที่จ่ายตังค์
สังคมออนไลน์ได้เห็นเรื่องราวแล้วก็รู้สึกสงสารเจ้าของบ้าน บอกว่าให้จัดการกับเรื่องเอาให้ถึงที่สุด เชื่อว่าน่าจะตามตัวกันได้ไม่ยาก เพราะถ้าคิดแค่เพียงว่าทำใจถือซะว่าเป็นกรรมของเราเอง ก็เท่ากับว่าปล่อยเสือเข้าป่าแล้วเขาก็จะไปตามหาทำกับคนอื่นอีกต่อไป มีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง พวกบรรดาช่างก็คิดว่าทำอะไรเขาไม่ได้ อยากให้มีเคสกรณีตัวอย่างที่จัดหนักจัดเต็มสักที
ที่มา Ticha Naka