หนุ่มโบกแท็กซี่แล้วขึ้นไปนั่ง เจอป้ายแขวนไว้ทั้งสองฝั่ง นั่งจนอ่านครบแล้วเห็นใจ

หนึ่งในการให้บริการขนส่งและคมนาคมที่เป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือการโบกรถโดยสารประจำทางและก็แท็กซี่โดยสารที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป แม้ในปัจจุบันจะมีทั้งรถตู้และรถไฟฟ้าให้ได้ใช้ แต่อย่างไรก็ตามแท็กซี่ก็ยังคงเป็นบริการขนส่งที่ยังคงขาดไม่ได้ในสังคมเรา

และก็อีกเช่นกันถึงแม้แท็กซี่นั้นจะเป็นบริการรับส่งผู้โดยสารที่จะต้องไม่ปฏิเสธในการรับส่งตามที่กำหนดเอาไว้ แต่ในมุมของแท็กซี่เองเขาก็อยากจะที่มีสิทธิ์ในการออกกฏเกณฑ์ส่วนบุคคลเวลาที่ผู้โดยสารใช้บริการรถของเขาบ้างจะเป็นไรไป เพราะผู้คนหลากหลายนิสัยที่ตัวพวกเขาจะต้องได้เจอ

อีกหนึ่งเรื่องราวที่สังคมออนไลน์กำลังพูดถึงเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีผู้โดยสารหนุ่มคนหนึ่งนำมาโพสต์เอาไว้ เมื่อเขามีโอกาสได้โบกแท็กซี่คันหนึ่งเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมาย แต่กลับต้องมาเจอเข้ากับป้ายประกาศที่ติดเอาไว้ทั้งสองฝั่งข้างหลังเบาะคนขับและคนนั่งแท็กซี่นั่นเอง

ป้ายฝั่งหนึ่งเขียนเอาไว้ประมาณว่า ห้ามนำเอาของกินหรืออาหารมารับประทานภายในรถแท็กซี่ เพราะมันเหม็นสุดทนไม่ไหวจริงๆ บางที่ผู้โดยสารลงไปแล้วกลิ่นยังอยู่ในรถให้รำคาญใจ ยกเว้นว่าหากเป็นเครื่องดื่มอะไรพวกนี้ก็พอจะอนุโลมได้ แต่อาหารที่ส่งกลิ่นเหม็นต่างๆห้ามเอาไว้อย่าได้นำเข้ามากิน

แต่ป้ายอีกฝั่งหนึ่งนี่เด็ดสุด เพราะเป็นการออกกฏห้ามจ้ำจี้กันบนรถของเขา ทั้งห้ามจับ ห้ามจูบ ห้ามลูบ ห้ามคลำบนรถเรา เพราะรถแท็กซี่คันนี้ของเขามีแม่ย่านาง ที่สำคัญรถคันนี้มีไว้รับส่งผู้โดยสาร ไม่ใช่เป็นโรงแรมม่านรูดแต่ประการใด

สังคมออนไลน์ต่างพากันแสดงความคิดเห็น โดยก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็บอกว่ารถของเขาเขามีสิทธิ์จะตั้งกฏอะไรก็ทำได้ แต่บางฝ่ายก็บอกว่าควรจะใช้ภาษาให้มันดูเบากว่านี้ก็จะดี หลายคนเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องติดป้ายเตือนดุดันขนาดนี้ เพราะคงพูดดีๆก็แล้วแต่อาจจะไม่มีใครสนใจปฏิบัติตาม

ที่มา ผู้บริโภค