Thaione31TV

พื้นที่ส่วนตัวคือส่วนที่ตัวเราเองนั้นถือและครอบครองในกรรมสิทธิ์ โดยอ้างอิงตามหลักหมุดหรือโฉนดที่ดิน ที่เป็นลายลักษณ์อักษรถูกต้องตามกฏหมายอย่างชัดเจน และในทางกลับกันพื้นที่ส่วนรวมก็คือพื้นที่ที่มีเอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนั้นๆสามารถที่มาใช้สอยร่วมกันได้ ซึ่งต้องไม่ยึดถือและนำเอามาใช้สอยเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ต้องอยู่ในกฏและระเบียบของชุมชนดังกล่าวหรือหมู่บ้านเป็นต้น แต่เรื่องราวต่อไปนี้กลับเป็นที่พูดถึงกันอย่างในสังคมออนไลน์ขณะนี้ เนื่องจากว่ามีหนุ่มเจ้าของบ้านท่านหนึ่ง ได้มีการโพสต์รีวิวผลงานการปลูกต้นไม้รอบบริเวณบ้านให้กับสังคมออนไลน์ได้ชมกัน แต่นี่แหละถึงได้กลายมาเป็นปัญหา เมื่อสังคมมองเห็นว่าส่วนนั้นที่มีการปลูกต้นไม้ มันมีลักษณะเหมือนกับจะเป็นทางเท้า หรือก็คือทางสาธารณะที่เป็นของส่วนกลาง ทำไมเจ้าของบ้านหลังนี้ถึงได้นำมาปลูกต้นไม้เป็นของตัวเองได้ เนื่องจากว่ามีทั้งท่อระบายน้ำ และเสาไฟฟ้าของหมู่บ้านอย่างชัดเจน และทางก็เป็นลักษณะของทางเท้าอย่างชัดเจนขนาดนี้ มองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่ามันคือทางสาธารณะประโยชน์ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง การที่เจ้าของบ้านนำเอาต้นไม้มาปลูกเป็นของส่วนตัวเองนั้นเป็นอะไรที่ทำไม่ได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญมีการก่อเป็นบล็อกปูนเพื่อปลูกต้นไม้เอาไว้นอกรั้วบ้านอีกด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าทางเจ้าของบ้านหรือหนุ่มคนที่เป็นผู้โพสต์เรื่องราวนี้ ได้อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวมันคือขอบบ้านหน้าบ้านตัวเอง…

หลายคนเปิดร้านทำธุรกิจหรือประกอบกิจการบางอย่างด้วยเพราะตัวเองนั้นชอบที่จะทำสิ่งๆนั้นอยู่แล้ว ในขณะที่เหตุผลของอีกหลายๆคนนั้น อาจจะไม่ได้ทำเพราะชอบที่จะทำสิ่งเหล่านั้น แต่ที่ทำก็เพราะว่าต้องทำเพื่อครอบครัวและลูกๆของตัวเอง เพื่อจะให้ทุกคนมีกินมีใช้มีความเป็นอยู่ที่ไม่ลำบาก และก็เพื่อจะส่งลูกๆให้ได้เรียนหนังสือจนจบ หลายคนทำงานหนักมานานนับสิบๆปี ก็เพื่อที่จะให้คนในครอบครัวมีความสุขมีรอยยิ้ม เพื่อให้ลูกๆทุกคนมีการศึกษาสูงๆ จะได้นำความรู้เหล่านั้นไปประกอบวิชาชีพที่ดีๆไม่ต้องมาลำบากเหมือนอย่างตัวเอง แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถจะยืนหยัดไปจนถึงวันนั้นได้ แต่หากว่าเราทำได้เมื่อไหร่ ความสำเร็จที่ได้มานั้นมันก็จะเป็นอะไรที่หอมหวานเป็นอย่างมาก และนี่ก็คืออีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จที่หญิงท่านนี้ได้ทำได้ หลังจากได้เปิดร้านขายของโชว์ห่วยมานานกว่า 17 ปี ซึ่งมีนาคมที่จะถึงนี้เธอได้ขอประกาศปิดกิจการ เนื่องจากว่าเธอสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จแล้ว เพราะเธอได้ส่งลูกๆของเธอเรียนหนังสือจนจบเป็นที่เรียบร้อย และร้านนี้ก็จะคงเหลือเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ยาวนานกว่า 17 ปี ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านทั้งขาประจำและขาจรทุกคน…

เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ว่าถ้าหากเราไปเจอพืชพันธุ์บางอย่าง ที่มันเติบโตและก็เลื้อยขึ้นไปอยู่บนเสาไฟ ซึ่งเป็นเสาไฟฟ้าของโครงการหรือของส่วนกลาง หรือจะของหลวงอะไรก็แล้วแต่ เราเห็นก่อนแล้วจะมีสิทธิในพืชพันธุ์ที่อยู่บนนั้นหรือไม่ เพราะดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นของใคร มันเกิดขึ้นไปตามธรรมชาติเลย ซึ่งจากภาพที่เห็นนี้เป็นผลฟักลูกงามห้อยต่องแต่งอยู่ 2 ลูกบนเสาไฟฟ้า ที่มันเลื้อยเกี่ยวพันขึ้นไปอยู่บนเสาไฟฟ้าที่เป็นส่วนกลางของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยดูแล้วไม่น่าจะมีใครที่เป็นเจ้าของ เราสามารถที่จะเก็บเอามาเป็นของตัวเองได้หรือไม่ งานนี้สังคมออนไลน์ต่างพากันสนใจและก็พูดถึงกันเป็นอย่างมาก เมื่อหนุ่มคนนี้ที่โพสต์ภาพและสอบถามว่าจะปีนขึ้นไปเก็บก่อนหรือจะไปซื้อกระดูกหมูก่อนดี แต่งานนี้คงไม่มีใครกล้าปีนขึ้นไปแน่นอนเพราะเสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าดูดเป็นอย่างมาก ซึ่งหากว่าพูดกันตามความคิดแบบชาวบ้านๆอย่างเราๆเลย ผลไม้พืชผักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของนั้น แน่นอนว่าหากมาเกิดอยู่ในบริเวณพื้นที่บ้านหรือที่ดินของเราเอง เราก็มีสิทธิที่จะครอบครองและเป็นเจ้าของได้ แต่ในกรณีแบบนี้ในภาพมันขึ้นไปโตอยู่บนเสาไฟฟ้า ซึ่งน่าจะอยู่ในส่วนกลางของหมู่บ้าน…

เรื่องราวต่อไปนี้น่าจะถูกใจคนขับรถบนท้องถนนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เคยไหมเวลาที่เราขับรถอยู่บนถนนแล้วมักจะเจอพฤติกรรมของคนขับท่านอื่น ที่ขับรถช้ามากแต่ก็ดันมาวิ่งแช่อยู่ด้านขวาสุดของเลน ซึ่งเป็นทางที่เอาไว้ให้สำหรับคนที่ขับรถวิ่งเร็วกว่าแซงขึ้นไป ทั้งๆที่เลนซ้ายก็ว่างแต่ก็ยังมาขับแช่ขวาอยู่ได้ บางคนก็ไม่ใส่ใจวิ่งแซงซ้ายขึ้นไป แต่สำหรับบางคนเขาก็ไม่ยอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบะสีดำคันนี้ ที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างมากในสังคมออนไลน์ หลังจากที่เขาสุดทนกับพฤติกรรมของคนที่ชอบขับรถแช่ขวากัน แต่ตัวเองนั้นขับช้ามากจนคนที่ขับเร็วกว่าไม่สามารถที่จะแซง เขาจึงได้ลงทุนทำป้ายไฟเป็นตัวอักษรวิ่งได้ เพื่อหวังจะให้คนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ได้อ่านดูสักหน่อย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้ได้โดยผู้ขับรถที่อยู่ด้านท้ายของเขา ทำให้เห็นตัวอักษรทั้งหมดบนป้ายไฟดังกล่าว ที่กระบะสีดำได้ตั้งใจทำมาให้กลุ่มคนที่ขับรถช้าแต่ชอบมาขับแช่ขวาเลนได้อ่านกัน ซึ่งในข้อความก็จะเป็นตัวอักษรวิ่งไปเรื่อยๆและระบุเอาไว้ประมาณว่า “ขับช้าแช่ขวา ซ้ายว่างให้เข้าไปวิ่งบ้าง ต้องรอให้เขาด่าควายก่อน ให้รถไวไปก่อน มารยาทค่ะ อย่าเห็นแก่ตัว” งานนี้ทำให้เรื่องราวดังกล่าวถูกสังคมออนไลน์พูดถึงเป็นอย่างมาก…

กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวบ้านสวยๆในงบประมาณน้อยที่คนทั่วไปก็สามารถจะจับต้องได้ และวันนี้ก็อีกเช่นกันเราได้นำเอาผลงานของการสร้างบ้านที่ช่างทำเอาไว้ มาให้ทุกท่านพิจารณา โดยเฉพาะกับคนที่งบประมาณจำกัดแต่ก็อยากจะมีบ้านหลังเล็กๆเอาไว้สักหลัง รับรองเลยว่าจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน ช่างได้มีการโพสต์ภาพของบ้านทรงน่ารักๆหลังนี้เอาไว้ โดยบอกว่างบประมาณทั้งหลังจบงานนี้อยู่ที่ 385,000 บาท ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง และมีโซนครัวเล็กๆ ที่มาพร้อมกับระเบียงบ้าน เหมาะมากสำหรับครอบครัวเล็กๆ หรือจะอยู่คนเดียวก็ถือว่าเข้าท่า ซึ่งภายนอกว่าสวยแล้วภายในยิ่งดูสะอาดตาอบอุ่นน่ารัก ถ้ามองๆไปก็จะเหมือนกับห้องคอนโดสวยๆในเมืองเลยเหมือนกัน ซึ่งแต่ละมุมและละโซนนั้นถูกจัดทำเอาไว้อย่างชัดเจน เจ้าของบ้านสามารถที่จะคิดไอเดียและออกแบบตกแต่งได้อย่างง่ายดาย…

หลายครั้งที่เราได้เห็นผลงานการรีโนเวทบ้านไม้เก่า ซึ่งก็หลายครั้งอีกเหมือนกันที่การรีโนเวทนั้นเปลี่ยนแปลงความเป็นบ้านไม้ไปซะหมดจดเลย บางท่านก็ทำเป็นแนวโมเดิร์นไป บางท่านก็ทำเป็นแนวมินิมอลสไตล์ แต่จะมีสักกี่คนที่ออกแบบรีโนเวทบ้านไม้ซะใหม่่ แล้วยังคงความเป็นบ้านไม้ที่ดูร่วมสมัยและสวยงาม หญิงสาวท่านหนึ่งได้นำเอาผลงานการรีโนเวทบ้านไม้หลังเก่า มาให้กับสังคมออนไลน์ได้ชื่นชมกัน เป็นการออกแบบและทำใหม่ให้ดูร่วมสมัยแต่ก็ยังคงความเป็นสมัยเก่าอยู่บ้าง มีกลิ่นไอของความเป็นบ้านไม้โบราณที่ทุกอย่างดูแล้วผสมผสานกันอย่างลงตัว บ้านไม้หลังนี้เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยใช้งบประมาณในการรีโนเวทแบบเหมาทั้งหมดอยู่ที่ 500,000 บาท โดยเป็นการผสมผสานการใช้วัสดุอย่างไม้จริง และไม้เชอร่า รวมไปถึงอิฐบล็อกและการฉาบปูนเข้าด้วยกัน โดยการใช้สีขาวและน้ำตาลมาตัดให้ออกไปทางแนวมินิมอลสไตล์ ข้างนอกว่าสวยแล้วพอตามไปดูข้างใน ต้องบอกเลยว่าช่างทำออกมาได้สวยน่าอยู่เป็นอย่างมาก หากไม่เห็นบ้านหลังเดิมมาก่อนแทบจะไม่คิดเลยว่านี่คือการรีโนเวทบ้านไม้หลังเก่าใหม่ การนำเอาไม้มาใช้ร่วมกับวัสดุอื่นๆยังคงเป็นความสวยและคลาสสิคไม่ตกยุคสมัยเลยจริงๆ…

การปรับปรุงพื้นที่หรือสภาพแวดล้อมของสิ่งก่อสร้างต่างๆนั้น แน่นอนว่าหนึ่งในวิธีการปรับปรุงที่ช่วยให้ได้ผลดี และเปลี่ยนแปลงสภาพสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นได้มากที่สุดก็คือการทาสีนั่นเอง ดังจะเห็นได้ในหลายๆรีวิวที่สังคมออนไลน์นำมาให้ชมกัน เพียงแค่ปรับสภาพผนังกำแพงโดยการทาสีใหม่ ก็ช่วยให้บ้านหรือห้องนั้นๆดูสวยงามดูดีขึ้นได้แล้ว แต่หลายครั้งทางเจ้าของบ้านก็อยากทีจะปรับปรุงแต่ก็ไม่อยากให้ราคาหรือต้นทุนงบประมาณสูงบานปลายจนเกินไป จึงอยากจะทราบว่าราคาที่ช่างทั่วไปเขาคิดกันในการปรับปรุงผนังกำแพงบ้านและการทาสีนั้นเขามีราคากลางๆอยู่ตรงไหน จะได้เป็นความรู้และความเข้าใจเผื่อว่าในอนาคตจะได้มีการทำอีกที หญิงสาวท่านนี้ได้มีการโพสต์ภาพบ้านและสอบถามกับสังคมออนไลน์ โดยเธอบอกว่าได้จ้างช่างมาปรับปรุงพื้นที่ผนังนอกบ้านให้ทั้งหมด โดยมีการสกิมผนังและการทาสี ซึ่งเป็นการเหมาจ่ายทุกอย่างทั้งค่าแรงและค่าของ โดยช่างได้มีการประเมินราคาให้ทุกอย่างอยู่ที่ 77,500 บาทถ้วน เป็นการทำผนังทั้งสองด้านของตึก ซึ่งเธออยากสอบถามว่าราคานี้เป็นราคาที่ปกติแล้วหรือไม่ อยากจะทราบเอาไว้เพื่อเป็นความรู้ เผื่อว่าจะได้มีโอกาสปรับปรุงพื้นที่อื่นๆอีกต่อไป โดยเธอได้ให้ข้อมูลว่ามีการต่อนั่งร้านขึ้นไปจากที่เห็นก็ราวๆ 6 ชั้น และสีที่ใช้ก็คือสี…

การอยู่ร่วมกันนั้นบางครั้งแต่ละคนแต่ละฝั่งก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ตัวอย่างคนสมัยก่อนที่เขาอยู่ร่วมกันส่วนใหญ่ก็จะมีการแบ่งปันพื้นที่บางส่วน ที่แม้จะเป็นของตัวเองก็นำมาให้ชาวบ้านใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ร่วมกันได้ ยิ่งหากเป็นทางที่จะต้องใช้เดินเข้าออกเพื่อไปยังส่วนต่างๆด้วยแล้ว หากทุกคนไม่คิดเห็นแก่ตัวเองก็สามารถจะนำมาแบ่งพื้นที่คนละครึ่งทำเป็นทางเดินเข้าออกร่วมกันได้ และนี่ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหนุ่มคนนี้และครอบครัวของเขา หลังจากที่มีเจ้าของที่คนหนึ่งนำเอาเสาไม้มาปักกั้นเขตพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่ทำเป็นถนนทางเดินเข้าออกไปยังส่วนต่างๆ เพียงเพราะตัวเองไม่ถูกกันกับญาติพี่น้องตัวเองที่มีพื้นที่ดินอยู่ด้านใน ก็เลยจะปิดกั้นทางเข้าออกเอาไว้ไม่ให้ญาติตัวเองผ่านเข้ามาได้นั่นเอง แต่ประเด็นคือที่ดินของแม่เรานั้นมันอยู่ติดกับเขา ซึ่งแม่ก็ได้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งทำเป็นถนนทางเข้าออกให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่การมาตั้งเสาขนาดนี้มันเกินไปหรือเปล่า ทำให้ทางฝั่งเราเองก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย ไม่สามารถจะผ่านเข้าออกได้สะดวกเหมือนเดิม แม่ผมก็เลยเอาเสามาตั้งกั้นบ้างอีกครึ่งถนนทางเข้า ผลก็คืองานนี้ก็ไม่ต้องมีใครผ่านเข้าออกได้รวมไปถึงเจ้าของที่ที่มีปัญหาด้วย ก็ในเมื่อคุณไม่คิดจะมีน้ำใจกับคนอื่นก็ไม่จำเป็นจะต้องมีน้ำใจด้วยเช่นกัน แต่แม่ผมไปทำทางเข้าออกที่ใหม่ที่อยู่ด้านหลัง และก็ทำเผื่อให้ญาติๆของฝั่งเจ้าของที่ที่มีปัญหาอีกด้วย เพราะเราไม่ได้มีปัญหากับญาติของฝั่งเขา กลายเป็นว่าเจ้าของที่ที่มีปัญหาอดเข้าทางข้างหน้า และจะต้องไปขอร้องผ่านทางข้างหลังญาติตัวเองที่ตัวเองแกล้งเขาไม่ถูกกับเขาแทน เรื่องนี้คิดว่าจะจบแต่กลับไม่จบแค่นั้น…